แนะนำบล็อกเกาะติด ติดตาม อัพเดท ข่าวสาร สถานการณ์ ความรู้ทั่วไป วิธีการป้องกัน ดูแลรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

เกาะติด ติดตาม อัพเดท ข่าวสาร สถานการณ์ ความรู้ทั่วไป วิธีการป้องกัน ดูแลรักษา อาการ ผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมไปถึงโรงพยาบาล สถานพยาบาลที่รับตรวจและรักษาไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ที่

Swine Flu,ไข้หวัด 2009,ไข้หวัด2009,ไข้หวัดใหญ่ 2009,ไข้หวัดใหญ่2009,ข่าว,ข่าวไข้หวัด2009

WHOอาจยกระดับเตือนหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่เป็นระดับ6

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 พ.ค.) นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายเตือนภัยและตอบสนองภาวะโรคระบาดขององค์การอนามัยโลก แถลงยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกว่า เพิ่มจาก 365 ราย เป็น 615 ราย เฉพาะที่ประเทศเม็กซิโกติดเชื้อ 241 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงอาจจำเป็นต้องขยับขั้นเตือนภัยการระบาดถึงขั้นสูงสุดระดับ 6 คือ ระบาดทั่วโลกเร็ว ๆ นี้ แต่ยังหวังว่าสภาพการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น. ที่มา: http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197983&NewsType=1&Template=1

พบเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1 ในหมูที่แคนาดา

คาดไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหาร และฝูงหมูดังกล่าวยังต้องรอผลตรวจสอบต่อไป แต่โอกาสที่หมูจะแพร่เชื้อไวรัสมาสู่คนได้นั้นยังไม่ใช่เวลาอันใกล้นี้

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (3 พ.ค.) อ้างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแคนาดา ที่ออกมาระบุว่า พบเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1 ในฝูงหมูที่รัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดา แต่ไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหาร

สำนักงานตรวจสอบอาหารของแคนาดาระบุว่า ฝูงหมูดังกล่าวยังต้องรอผลตรวจสอบต่อไป แต่ โอกาสที่หมูจะแพร่เชื้อไวรัสมาสู่คนได้นั้นยังไม่ใช่เวลาอันใกล้นี้ และว่าความปลอดภัยของอุตสาหกรรมอาหารไม่ได้รับผลกระทบและเนื้อหมูแคนาดา ปลอดภัยสำหรับการบริโภค

ขณะ ที่องค์การระหว่างประเทศ 4 แห่งตำหนิมาตรการห้ามนำเข้าเนื้อหมูเพราะกลัวว่าหมูจะแพร่เชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1 และย้ำว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าหมูเป็นตัวการแพร่ระบาด ในแถลงการณ์ ร่วมขององค์การอนามัยโลก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก และองค์การสุขภาพสัตว์ระหว่างประเทศ ระบุว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายจากอาหาร จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินมาตรการทางการค้าด้วยการห้ามนำเข้าเนื้อหมูและ ผลิตภัณฑ์หมูทุกชนิด

อย่าง ไรก็ดี แถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ด้านสัตว์เฝ้าระวังตรวจสอบว่าหมูมีอาการ ป่วยผิดปกติหรือไม่ ซึ่งอาจสงสัยว่ามีเชื้อเอช1 เอ็น1 ที่ทำให้เกิดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้ ประเทศราว 15 แห่งรวมทั้งจีนและรัสเซีย ได้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์หมูจากแคนาดา สหรัฐ และเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/special/3456

ไข้หวัดใหญ่2009 ลามเกาหลี-ฝรั่งเศส จีนห้ามบินเม็กซิโก

ฮู ยันตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ 2009 ที่ 367 ราย ขณะที่เกาหลีพบผู้ป่วย 1 รายและฝรั่งเศส 2 ราย ส่วนจีน สั่งระงับเที่ยวบินจากเม็กซิโกแล้ว...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวานนี้ (1 พ.ค.) ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009? ทั่วโลก ยังคงทยอยเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสัญญาณแห่งความหวัง ในการยับยั้งการแพร่ระบาด โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก ขณะนี้อยู่ที่ 367 ราย รวมถึง 141 ราย ในสหรัฐฯ และ 156 ราย ในเม็กซิโก ขณะเดียวกัน บรรดานักวิจัยกำลังเร่งทำงาน เพื่อพัฒนาวัคซีนสำหรับเชื้อไข้หวัดใหญ่ดังกล่าว

ขณะที่ไมเคิล ชอว์ หัวหน้าทีมวิจัย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) คาดหวังว่า จะสามารถผลิตวัคซีนได้ ภายใน 1 เดือน ซึ่งนักวิจัยจะทำงานอย่างดีที่สุด และเร็วที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้

อย่างไรก็ตาม วานนี้ โรซาลีน บาเชลโลต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส ยืนยันว่า ผู้ป่วย 2 ราย ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนที่เม็กซิโก ซึ่่งเป็นประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดแห่งแรกนั้น ภาคธุรกิจจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน บริษัทห้างร้าน โรงงาน และหน่วยงานราชการ ต่างปิดให้บริการ เป็นเวลา 5 วันแล้ว ตามคำสั่งของประธานาธิบดีเม็กซิโก ที่ขอให้ประชาชนในประเทศอยู่แต่ในบ้าน เพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

ขณะ ที่มาร์เซโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรี กล่าวว่า มาตรการฉุกเฉินเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด กำลังจะประสบผล และนำไปสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น ในทุกๆ วัน

ด้านสำนักข่าวยอนฮัพของ เกาหลีใต้ รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้รายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็นรายแรก เป็นแม่ชีอายุ 51 ปีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เกาหลีใต้ระบุว่า แม่ชีคนดังกล่าวถูกกักตัวไว้รอดูอาการตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา หลังเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก และได้รับการยืนยันแล้วว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดดังกล่าว นับเป็นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของประเทศ แม่ชีรายนี้ยังเป็น 1 ใน 3 ของผู้ต้องสงสัยติดเชื้อที่มีรายงานในสัปดาห์นี้ ซึ่งอีก 2 คนเป็นหญิงวัย 44? ปี และ คนขับโดยสาร วัย 57 ปี โดยผลการตรวจคนขับรถโดยสารไม่พบเชื้อ ขณะที่หญิง วัย 44 ปี พบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ

ส่วนสำนักข่าว ซินหัวของทางการจีน รายงานว่า จีนสั่งระงับเที่ยวบินขาเข้าจากเม็กซิโกไปลงยังนครเซี่ยงไฮ้แล้ว หลังจากพบชายคนหนึ่งมีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ซึ่งนับเป็นรายแรก ในเอเชีย ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือชนิดเอ เอช1 เอ็น1 อยู่ในเที่ยวบินที่มาจากเม็กซิโก ทางการจีนจึงได้ตัดสินใจสั่งไม่ให้เที่ยวบินจากเม็กซิโกไปลงจอดยังนคร เซี่ยงไฮ้ทางภาคตะวันออกของจีน และว่า ทางการจีนได้แจ้งคำสั่งระงับเที่ยวบินไปยังรัฐบาลเม็กซิโกและสายการบินต่าง ๆ แล้ว จนกว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/oversea/3273

WHO ยืนยันยอดผู้ป่วยจากโรคไข้หวัดหมู 257 คน

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพิ่มยอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกทั่วโลกเพิ่มเป็น 257 คน รวมทั้งผู้เสียชีวิต 8 คน ส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก ที่ซึ่งยอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อได้เพิ่มจาก 26 คนเป็น 97 คน รวมทั้งผู้เสียชีวิต 7 คน ขณะที่สหรัฐฯมี 109 คนใน 10 รัฐ รวมทั้งผู้เสียชีวิต 1 คน ในรัฐเท็กซัส เป็นเด็กชายชาวเม็กซิโกวัย 23 เดือนผู้เข้าไปเยี่ยมญาติในสหรัฐฯ
ประเทศที่ยืนยันผู้ป่วยจากโรคนี้รวมทั้ง 19 คนในแคนาดา กับ 13 คนในสเปน และในอีกหลายประเทศ คืออังกฤษ,นิวซีแลนด์ เยอรมัน อิสราเอล และออสเตรีย ซึ่งหลายประเทศมียอดยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่าในรายการของ WHO และบางประเทศเช่นสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ WHO ไม่อยู่ในรายชื่อ แม้ทางสวิสจะระบุว่ามีผู้ยืนยันว่าติดเชื้อในประเทศตนหลายคน ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่าญี่ปุ่นรายงานผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อคนแรกเป็นเด็กนักเรียน ชายชั้นมัธยมวัย 17 ปี ผู้กลับจากแคนาดาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และไปพบแพทย์ที่คลีนิคในเมืองท่าโยโกฮาม่า ทางใต้ของกรุงโตเกียวเมื่อวานนี้ พร้อมอาการป่วยคล้ายไข้หวัด

ที่มา: http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=378065

WHO เปลี่ยนชื่อหวัดหมูเป็น H1N1 ชนิด A แล้ว

WHO เปลี่ยนชื่อหวัดหมูเป็น H1N1 ชนิด A

องค์การ อนามัยโลกหวั่นประชาชนงดกิน ‘หมู’ สั่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น โรคไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 ชนิด เอ แจงเชื้อโรคไข้หวัดหมูไม่เกี่ยวกับการบริโภค ยืนยันยอดป่วยล่าสุด 257 ราย ล่าสุดพบในญี่ปุ่นอีกคนเป็นนร.ชาย... สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วันนี้ (1 พ.ค.) นายดิค ทอมป์สัน โฆษกองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูส่งผลต่อการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งเชื้อโรคดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเนื้อหมูแต่อย่างใด ดังนั้น องค์การอนามัยโลกจึงเห็นควรให้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรคไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 ชนิด เอ สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 ชนิด เอ มีทั้งสิ้น 257 คน อยู่ในประเทศเม็กซิโก 97 คน เพิ่มจากเดิม 26 คน เสียชีวิตไปแล้ว 7 ราย สหรัฐอเมริกา ยอด 109 คน เสียชีวิตแล้ว 1 ราย แคนนาดา 19 คน สเปน 13 คน อังกฤษ 8 คน เยอรมนี 3 คน นิวซีแลนด์ 3 คน อิสราเอล 2 คน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ประเทศละ 1 คน ล่าสุด ญี่ปุ่นพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโรคดังกล่าว 1 คน เป็นนักเรียนชายวัย 17 ปี ในโยโกฮามา ล้มป่วยหลังเดินทางกลับจากประเทศแคนนาดา ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐเพิ่มจาก 11 รัฐ เป็น 16 รัฐ โดยเซาท์แคโรไลนามีผู้ป่วย 10 คน นิวยอร์ก 50 คน เท็กซัส 26 คน และแคลิฟอร์เนีย 14 คน โรงเรียนในเท็กซัสสั่งปิดชั่วคราว 200 แห่ง ที่มา: http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197831&NewsType=1&Template=1

ไข้หวัดเม็กซิโกระบาด 9 ประเทศ พบการระบาดในสหรัฐมากที่สุด

องค์การ อนามัยโลกประกาศยกระดับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกไปสู่ระดับ 5 คาดในไม่ช้านี้จะต้องไปสู่ระดับ 6 ซึ่งหมายถึงการระบาดไปทั่วโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (30 เม.ย.) หลังจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศยกระดับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโกไปสู่ระดับ 5 แล้ว ซึ่งหมายถึงมีการติดต่อจากคนสู่คน ระบาดแล้วอย่างน้อย 2 ประเทศส่งผลให้คาดกันว่าในไม่ช้านี้จะต้องไปสู่ระดับ 6 ซึ่งหมายถึงการระบาดไปทั่วโลก

ทั้ง นี้องค์การอนามัยโลก และรัฐบาลชาติต่างๆ มีการยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกแล้ว 148 ราย ใน 9 ประเทศ มากที่สุดอยู่ในประเทศสหรัฐฯ

ขณะ ที่สำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า ล่าสุดที่สเปน เจ้าหน้าที่ยืนยันแล้วว่า พบผู้ติดเชื้อ โดยเป็นคนแรกที่ไม่ได้เดินทางไปประเทศเม็กซิโก ขณะที่ประเทศเม็กซิโกเอง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 159 คน ติดเชื้ออีก 7 คน ที่สหรัฐฯ เสียชีวิตพบเด็กชายวัย 23 เดือนเสียชีวิตในรัฐเทกซัสเป็นรายแรกและพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 91 คน ส่วน แคนนาดา พบผู้ติดเชื้อไวรัสหวัดเม็กซิโก 13 ราย อังกฤษ 5 ราย สเปน 10 ราย เยอรมันและนิวซีแลนด์ ประเทศละ 3 ราย อิสราเอล 2 ราย และออสเตรีย 1 ราย

เปรูผวาไข้หวัดหมู ห้ามเที่ยวบิน จากเม็กซิโกลงจอด

เปรูพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นรายแรก ซึ่งดูเหมือนเป็นกรณีแรกที่ได้รับคำยืนยันในภูมิภาคละติน อเมริกา ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ขอให้ชาวอเมริกันใช้สติปัญญา และวิธีการที่ดีในการแก้ไขปัญหา อย่าตื่นตระหนก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ (30 เม.ย.) ว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาว หลังเข้าทำงานครบ 100 วันที่เข้าบริหารประเทศ ต่อชาวอเมริกัน ตอนหนึ่งถึงการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ "ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก" หรือ "ไข้หวัดหมู" (Swine Flu) ว่า ขอให้ชาวอเมริกันใช้สติปัญญา และวิธีการที่ดีในการแก้ไขปัญหา อย่าตื่นตระหนก พร้อมยืนยันรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามเร่งแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งชาวอเมริกันต้องให้ความร่วมมือด้วย โดยไม่หวังแต่พึ่งพารัฐบาลเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ยังมีแผนปิดพรมแดนติดต่อกับประเทศเม็กซิโกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ดังกล่าว

ขณะที่ประเทศเปรูพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็นรายแรก ซึ่งดูเหมือนเป็นกรณีแรกที่ได้รับคำยืนยันในภูมิภาคละติน อเมริกา ล่าสุดนายออสการ์ อูการ์เต้ รัฐมนตรีสาธารณสุขเปรู ได้ประกาศห้ามเที่ยวบินพาณิชย์ทุกเที่ยวที่เดินทางมาจากเม็กซิโกลงจอดที่ เปรูแล้ว

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/oversea/2869

ภัยร้ายรายวัน - วิธีรับมือและป้องกันตัวเองจากไข้หวัดหมูหรือไข้หวัดเม็กซิโก

ภัยร้ายรายวัน - วิธีรับมือและป้องกันตัวเองจากไข้หวัดหมูหรือไข้หวัดเม็กซิโก



ผวา! ไปทั่วโลกกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมู SWINE FLU หรือ HUMAN SWINE INFLUEZA ที่ประเทศเม็กซิโก เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคนที่มีสารพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัด ใหญ่ในหมูผสมอยู่ด้วย โดยโครงสร้างของเชื้อไวรัส เอช 1 เอ็น 1 มีลักษณะทรงกลมห่อหุ้มด้วยสารไลโบ โปรตีน (LIPO PROTEIN) ภายใน ประกอบด้วยไรโบนิวคลิอิคแอซิด (อาร์เอ็นเอ) 8 ชนิด ได้แก่ นูรามินิดาซี (NEURAMINIDASE), เฮมากลูตินิน (HEMAGGLUTININ) เอ็นพี ยีน, เอ็นเอ ยีน, เอชเอ ยีน, เอ็นเอส ยีน, เอ็ม ยีน และ พีเอ, พีบี1, พีบี 2 ยีน

อย่าง ไรก็ตาม ไข้หวัดเม็กซิโกมีอัตราการติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว เริ่ม 25 เม.ย. เสียชีวิต 80 ราย ล่าสุดเช้าวันที่ 29 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 159 ราย ส่วน 1,300 คนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อีก 2,500 คนต้องสงสัยติดเชื้อ

ขณะ ที่ประเทศไทยพบเชื้อโรคลักษณะคล้ายกัน ชื่อว่า เชื้อสเตรปโต คอกคัส ซูอิส ไทป์ II เป็นเชื้อที่อยู่ในโพรงจมูกและต่อมน้ำลายของหมู เชื้อดังกล่าวพบได้ในหมูทั่วไปจนกลายเป็นเชื้อประจำถิ่น เมื่อหมูอยู่ในภาวะเครียด เช่น อยู่ในที่แออัด อากาศชื้นหรือหนาวจากฝนตกหนัก ภูมิคุ้มกันของหมูจะลดลง ส่งผลให้เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดทำให้หมูป่วยหรือตาย

การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดเม็กซิโก เริ่มตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมาจากประเทศเม็กซิโก สู่ สหรัฐฯ แคนาดา นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส สเปน อิสราเอล บราซิล ส่งผลให้ประเทศที่ติดต่อใกล้ชิดกับสหรัฐฯ อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หวาดผวาวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ล่าสุดองค์การอนามัยโลกออกมาประกาศความรุนแรงระดับ 5 ที่เป็นการแพร่ระบาดจากคนสู่คนในวงกว้างมากขึ้น จากความรุนแรงทั้งหมด 6 ระดับ คือ ระดับ 1 แพร่ระบาดในสัตว์ก่อน ระดับ 2 การแพร่จากสัตว์ป่าสู่สัตว์พื้นบ้าน ระดับ 3 แพร่ระบาดจากสัตว์มาสู่คนแต่มีจำนวนน้อย และอยู่ในพื้นที่จำกัด โดยการหายใจเอาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายไม่แพร่กระจายจากการรับประทานเนื้อหมู ที่ปรุงสุกแล้ว ระดับ 4 แพร่ระบาดจากคนสู่คน โดยระบาดในระดับเมือง หรือจังหวัด ระดับ 5 แพร่ระบาดจากคนสู่คนในกลุ่มกว้างมากขึ้น หรือในระดับประเทศ และระดับ 6 แพร่ระบาดไปทั่วโลก

อาการป่วยของผู้ติดเชื้อเบื้องต้น เริ่มมีไข้ ปวดหัวตัวร้อน เจ็บคอ หายใจขัดๆ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และเบื่ออาหาร ซึ่งไม่แตกต่างจากผู้ป่วยไข้หวัดทั่วๆไป ปัจจุบันโรคไข้หวัดเม็กซิโกยังไม่มีวัคซีนในการรักษา ฉะนั้นผู้ป่วยหรือคนปกติต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเอง ดังนี้

1. ควรใช้กระดาษทิชชูปิดจมูกและปากกรณีไอหรือจาม และทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดหลังการใช้ทันที

2. ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า สบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ (เจลล้างมือ) บ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังการไอหรือจาม

3. หลีกเลี่ยงการพบปะหรือสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยโรคไข้หวัด ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม หากตัวเองป่วยควรหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน เพื่อจำกัดพื้นที่และหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อ

4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางตา จมูก หรือปาก เพราะเชื้อโรคนี้สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายทางอวัยวะส่วนนี้ได้

ทั้งนี้ ทางกรมควบคุมโรค ของกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาให้คำแนะนำประชาชนในการดูแลสุขภาพ ทาง www.moph.go.th สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคได้ที่ศูนย์บริการข่าวสาร โทร 0-2590-3333 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: ภัยร้ายรายวัน - รับมือไข้หวัดหมูหรือไข้หวัดเม็กซิโก

WHO เพิ่มระดับหวัดเม็กซิโกจาก4เป็น5มีสิทธิ์ระบาดไปทั่วโลก

องค์การอนามัยโลกเตือนเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกพบการแพร่ระบาดแล้วทั้งใน ยุโรปและอเมริกา จนเข้าใกล้ระดับที่สามารถแพร่ระบาดไปทั่วโลก ขณะเดียวกันเพิ่มระดับเตือนภัยการระบาดจากระดับ 4 เป็นระดับ 5 แล้ว



สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (30 เม.ย.)ดร. เคอิจิ ฟูกูดะหัวหน้าด้านโรคหวัดขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) รายงานว่า จากหลักฐานที่ผ่านมา ชี้ว่าเชื้อไวรัสหวัดเม็กซิโกยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องจากคนไปสู่คน จนเข้าใกล้ระดับที่สามารถแพร่ระบาดไปทั่วโลก และว่าองค์การอนามัยโลกกำลังพิจารณาเพิ่มระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 5 ซึ่งหมายถึงการแพร่เชื้อจากคนไปสู่คนอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดเม็กซิโกนอกเม็กซิโกรายแรก เป็นเด็กชายวัย 23 เดือนชาวเม็กซิกัน เสียชีวิตในรัฐเทกซัส ขณะที่ในสหรัฐยืนยันผู้ติดเชื้อเกือบ 100 ราย จากการแพร่ระบาดในพื้นที่ 10 รัฐ เยอรมนีและออสเตรียเป็นสองประเทศล่าสุดในยุโรปที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 4 ราย และ 1 รายตามลำดับ ทางการอียิปต์สั่งการให้ฆ่าทำลายหมูในประเทศทั้งหมด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่เม็กซิโกซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 159 คน เตรียมจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง สหประชาชาติ

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เพิ่มระดับเตือนภัยการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก จากระดับ 4 เป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นขั้นที่ตรวจพบว่ามีการแพร่เชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์ในอย่างน้อย 2 ประเทศ

การเพิ่มระดับเตือนภัยในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเด็กชาย วัย 23 เดือนชาวเม็กซิกันเสียชีวิตที่รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกที่เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นอกประเทศ เม็กซิโก ส่วนที่ประเทศสเปน เจ้าหน้าที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกซึ่งไม่ได้ เดินทางมาจากเม็กซิโก รายงานแจ้งว่า เด็กชายผู้นี้ล้มป่วยในระหว่างที่ไปเยี่ยมญาติที่รัฐเทกซัสเมื่อต้นเดือนนี้ เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่นครฮิวส์ตัน และเสียชีวิตเมื่อคืนวันจันทร์(27 เม.ย.) ที่ผ่านมา.

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/oversea/2849

WHOยกระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก

WHOยกระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก

วันนี้(30 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังการประชุมฉุกเฉินของคณะนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดที่เกิด จากไข้หวัดใหญ่ ที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกจากระดับ 4 เป็น 5 จากทั้งหมด 6 ระดับ หลังมีข้อบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวใกล้จะเกิดการระบาดใหญ่ไปทั่วโลก ทั้งนี้ระดับ 5 หมายถึงไวรัสแพร่ไปอย่างน้อย 2 ประเทศ และกำลังเกิดการระบาดเพิ่มมากขึ้น ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การเพิ่มระดับเตือนภัยไข้หวัดเม็กซิโกในครั้งนี้เป็นสัญญานเตือนให้รัฐบาล ทั่วโลกเร่งดำเนินการสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างเร่งด่วน และอย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลทั่วโลกจะสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ใหม่นี้ได้ เนื่องจากเคยมีประสบการณ์กับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่มาแล้ว รวมถึงการระบาดของไข้หวัดนก ล่าสุด มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าวในเม็กซิโกแล้ว 159 คน และมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสนี้ 19 คน จากผู้ป่วยต้องสงสัยรวมทั้งหมด 2,498 คน ส่วนนอกเม็กซิโก พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นเด็กชายชาวเม็กซิโกวัย 23 เดือน ซึ่งไปเสียชีวิตที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ขณะที่มีผู้ป่วยในสหรัฐที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว 93 คน ที่แคนาดา 16 คน ที่นิวซีแลนด์ 14 คน ที่อังกฤษ 5 คน ที่เยอรมนี 3 คน ที่สเปน 10 คน ที่อิสราเอล 2 คน และที่ออสเตรีย 1 คน. ที่มา: http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197778&NewsType=1&Template=1

สหรัฐฯเปลี่ยนชื่อไข้หวัดหมูเป็น 'ไข้หวัดใหญ่2009 H1N1'

สหรัฐฯเปลี่ยนชื่อไข้หวัดหมูเป็น 'ไข้หวัดใหญ่2009 H1N1'

วันนี้(30 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯตัดสินใจเปลี่ยนชื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก หรือไข้หวัดหมู (swine flu) เป็น 'ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1' เพื่อแก้ความเข้าใจผิดของประชาชนที่ว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวเกิดจากหมู จนทำให้บางประเทศยกเลิกการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ พร้อมดำเนินการเฝ้าระวังและเตรียมการขั้นสูงสุด เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด ทั้งนี้ โอบามา ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสจัดสรรงบประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์อย่างเร่งด่วน เพื่อใช้ในการปฏิบัติการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ทั้งยังแนะนำให้ประชาชนป้องกันตนเองจากการติดเชื้อตามคำแนะนำของคณะทำงาน 'ผมยังยืนยันคำเดิมว่านี่เป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรง แต่อยากให้ชาวอเมริกันทุกคนวางใจ รัฐบาลกำลังเตรียมการรับมือกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขสั่งการให้โรงเรียนที่พบว่ามีผู้ต้องสงสัย ติดเชื้อไวรัสปิดการเรียนการสอนชั่วคราว และหากต้องปิดโรงเรียนเพิ่ม ก็จะแนะนำให้ผู้ปกครองทุ่มเทกับการดูแลลูกหลานของตนเองที่บ้าน' โอบามา กล่าว อย่างไรก็ตาม แม้จะพบผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริการแล้ว 1 ราย แต่คณะทำงานด้านสาธารณสุขยังไม่แนะนำให้ปิดชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก คณะทำงานด้านสาธารณสุขยังไม่แนะนำให้รัฐบาลปิดชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก เพราะการปิดพื้นที่ชายแดนไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความกังวลเท่านั้น แต่จะก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น. ที่มา: http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197779&NewsType=1&Template=1

คำถาม-คำตอบ ไข้หวัดหมู ไข้หวัดเม็กซิโก

คำถาม-คำตอบ ไข้หวัดหมู ไข้หวัดเม็กซิโก

หน้ากากพิเศษ - ชาย ชาวเม็กซิโกสวมหน้ากากมีหนวด เดินคุยโทรศัพท์มือถือในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกแล้ว 152 คน เมื่อวันที่ 27 เมษายน (เอพี)

-ไข้หวัดหมูคืออะไร

ไข้ หวัดหมูหรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจที่บาง ครั้งมีอันตรายรุนแรงถึงชีวิตสำหรับหมู มีสาเหตุมาจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ พบครั้งแรกเมื่อปี 2473 ตามธรรมดาแล้วโรคนี้จะเป็นในหมูเท่านั้น แต่บางครั้งหมูอาจมีเชื้อไข้หวัดอยู่ในตัวมากกว่า 1 ชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดการผสมกันของยีนได้ ทำให้เกิดเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่สามารถข้ามสายพันธุ์มาติดต่อยังมนุษย์ได้ เริ่มต้นจากการสัมผัสกับหมูที่เป็นโรค ภัยคุกคามล่าสุดคือไวรัสสายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1

-เหตุใดต้องมีการเตือนภัย

องค์การ อนามัยโลก (ฮู) ระบุว่าไวรัสสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จากการใกล้ชิดกัน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดในระดับภูมิภาคและระดับทวีป

-อะไรบ้างที่ยังเป็นปริศนา

ผู้ เชี่ยวชาญยืนยันว่ายังไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดการระบาดในวงกว้างหรือไม่ หรือหากเกิดขึ้นแล้วจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มีความยากง่ายในการติดต่อจากคน สู่คนแค่ไหน หรือไวรัสจะพัฒนาตัวเองจนร้ายแรงขึ้นได้มากแค่ไหน ซึ่งการจะค้นหาคำตอบเหล่านี้เป็นหน้าที่ของนักวิทยาศาสตร์ด้านยีนและนัก ระบาดวิทยา

-ประเทศใดบ้างที่มีการระบาดในตอนนี้

เม็กซิโกเป็น ศูนย์กลางของการระบาด โดยมี 103 คนที่ต้องสงสัยว่าจะเสียชีวิตด้วยโรคนี้ และมีอีก 400 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยหรือต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ 57 รายใน 10 ประเทศ แต่ไม่มีผู้ที่ป่วยรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยสหรัฐมีที่ยืนยันว่าป่วยด้วยโรคนี้แล้ว 20 ราย แคนาดา 6 ราย และสเปน 1 ราย ขณะที่อีกหลายประเทศยังคงอยู่ระหว่างรอการยืนยันจากการตรวจสอบ

-เชื้อแพร่กระจายได้อย่างไร

ไข้ หวัดเม็กซิโกมีการแพร่กระจายเหมือนไข้หวัดทั่วไป เช่น การไอ จาม และผู้ที่อยู่ใกล้เคียงหายใจรับเชื้อเข้าไป หรือไม่ก็ผ่านทางพื้นผิวที่มือไปสัมผัสและเข้าสู่ร่างกาย ทางตา จมูก หรือปาก

-อาการเป็นอย่างไร

มีไข้สูงราว 38 องศาเซลเซียส ไอ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามข้อ คัดจมูก อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร บางรายอาจมีน้ำมูก เจ็บคอ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย และจากกรณีที่เคยพบในอดีต ยังก่อให้เกิดอาการปอดบวม ทางเดินหายใจล้มเหลว และส่งผลให้ปัญหาทางสุขภาพที่เรื้อรังอยู่ร้ายแรงยิ่งขึ้น

-รักษาให้หายได้หรือไม่

ศูนย์ ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) แนะนำให้ใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ (ชื่อทางการค้าว่าทามิฟลู) และซานามิเวียร์ (ชื่อทางการค้าว่ารีเลนซา) สำหรับรักษาหรือป้องกันโรค ยาเหล่านี้จะป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้แตกตัว

-สามารถติดโรคนี้จากการรับประทานเนื้อหมูได้หรือไม่

ไม่ ไวรัสชนิดนี้ติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจและไม่ติดต่อทางอาหาร นอกจากนี้ การปรุงเนื้อหมูที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไปสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้

ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01for02290452&sectionid=0104&day=2009-04-29

ไข้หวัดหมูหรือไข้หวัดเม็กซิโก-ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่ควรรู้จัก

ข่าวคราวการแพร่ระบาดของโรคไข้ หวัดหมูในประเทศเม็กซิโก จนคร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบคน ซึ่งผู้เสียชีวิตเฉพาะในประเทศเม็กซิโก มีถึง 149 คน (ตัวเลขทางการ ณ วันที่ 28 เมษายน 2552) เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนานาชาติเป็นอย่างมาก ล่า สุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือนว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะลุกลามไปทั่วโลก ทำให้หลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับโรคชนิดนี้ เกิดความสงสัยว่า "โรคไข้หวัดหมู" คืออะไร และจะสามารถป้องกันได้อย่างไร







รู้จักโรคไข้หวัดหมู

"โรคไข้หวัดหมู" หรือ Swine influenza เป็นไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ตามปกติมีการระบาดในหมูเท่านั้น สามารถพบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง H1N1, H1N2 และ H3N2 แต่บางครั้งหมูอาจมีเชื้อไข้หวัดอยู่ในตัวมากกว่า 1 ชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดการผสมกันของยีนได้ ทำให้เกิดเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่สามารถข้ามสายพันธุ์มาติดต่อยังมนุษย์ได้ เริ่มต้นจากการสัมผัสกับหมูที่เป็นโรค

ไข้หวัดหมูส่วนใหญ่มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่สามารถพบเชื้อได้ตลอดทั้งปี สำหรับ โรคไข้หวัดหมูที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกานั้น เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน ซึ่งไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากเป็นการผสมกันของสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์, ไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และไข้หวัดหมูที่พบในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูอย่างใกล้ ชิด เนื่องจากหวั่นวิตกว่า เชื้อ H1N1 อาจจะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้น


วิวัฒนาการไข้หวัดหมู

ก่อนจะกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ หรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกนั้น ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ดั้งเดิม พบมาตั้งแต่ ค. ศ.1918-1919 ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก จนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50 ล้านคน ส่วนใหญ่อายุ 20-40 ปี และตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จากนั้นโรคไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในช่วงต่างๆ ก่อให้เกิดโรคในคนอยู่มากกว่า 50 ราย โดยผู้ป่วย 61% มีประวัติสัมผัสหมูและมีอายุเฉลี่ย 24 ปี หลังจากนั้นใน ค.ศ.1974 ไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในค่ายทหาร (Fort Dix) ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ มีผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยที่อีก 230 ราย ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่น้อยมาก ทั้งหมดนี้ไม่มีประวัติสัมผัสหมู ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีการพัฒนาจนมีการติดต่อจากคนสู่คน

ต่อมาใน ค.ศ.1988 หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งเสียชีวิตในรัฐวิสคอนซิน และมีประวัติสัมผัสหมู จึงเกิดการสงสัยว่าไข้หวัดหมูอาจไม่ใช่พันธุ์หมูล้วน (classic H1N1) จนกระทั่งปี ค.ศ.1998 จึงพิสูจน์พบว่า หมูที่เลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกา มีไวรัสไข้หวัดหมูกลายพันธุ์ โดยมีพันธุกรรมผสมระหว่างหมู คน และนก เกิดสายพันธุ์ผสม (Triple assortant virus) H3N2, H1N2, และ H1N1 (วารสารโรคติดเชื้อ JID 2008) และสายพันธุ์ผสมนี้ยังพบได้ในเอเชีย และแคนาดา

จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2008 ได้พบไข้หวัดหมูผสมสายพันธุ์ใหม่ (H1N1) ที่ประเทศสเปน จากหญิงอายุ 50 ปีที่ทำงานในฟาร์มหมู โดยมีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คันคอ คันตา และหนาวสั่น แต่อาการเหล่านี้หายไปได้เอง โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาใดๆ จึงไม่มีการคาดการณ์ว่า ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่จะเป็นอันตรายมากนัก

จนกระทั่งล่าสุด เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู ในประเทศเม็กซิโก และมีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่า โรคนี้สามารถแพร่กันระหว่างคนสู่คน เนื่องจากเชื้อโรคได้วิวัฒนาการอย่างสมบูรณ์แล้ว


การติดต่อโรคไข้หวัดหมู

เชื้อ ไข้หวัดหมู มีการติดต่อเหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไป และเชื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามปกติคนจะไม่ติดเชื้อไข้หวัดหมู ยกเว้นผู้ที่ไปสัมผัสใกล้ชิดกับหมู ก็อาจติดเชื้อไข้หวัดหมูมาได้ แต่มักไม่ค่อยพบกรณีนี้ ทั้งยังไม่ค่อยพบกรณีไข้หวัดหมูระบาดจากคนสู่คนอีกด้วย แต่กรณีโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโกอยู่ขณะนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า มีการติดต่อจากคนสู่คน เพราะผู้ป่วยบางรายไม่เคยมีประวัติสัมผัสหมูแต่อย่างใด

ทั้งนี้เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และสามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นด้วยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด รวมทั้งติดต่อกันทางลมหายใจ หากอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื่อ และสามารถติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทั้งนี้เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา แต่ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู

ขณะที่นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก ระบุไว้ว่า โรคไข้หวัดหมู มีอัตราการแพร่ระบาดมากกว่าโรคซาร์ส และไข้หวัดนก แต่อัตราการเสียชีวิตมีน้อยกว่า คืออยู่ที่ร้อยละ 5-7 ขณะที่โรคไข้หวัดนกมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60

แต่ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ยืนยันว่า โรคไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่จะระบาดในวงกว้างหรือไม่ และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะติดต่อจากคนสู่คนได้ยากง่ายระดับ ไหน


อาการของโรคไข้หวัดหมู

เมื่อเชื้อไข้หวัดหมูเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะปรากฎอาการที่คล้ายกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่มีอาการรุนแรงกว่า และรวดเร็วกว่า นั่นคือ มีไข้สูงราว 38 องศาเซลเซียส ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปอดบวม เบื่ออาหาร บางรายอาจท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จากนั้นเชื้อจะแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต จึงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ เดินเอนไปเอนมาเหมือนคนเมาสุรา นอกจากนี้อาจสูญเสียการได้ยินจนถึงขั้นหูหนวกได้ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

การรักษาโรคไข้หวัดหมู

ทางสหรัฐอเมริกา ระบุว่า โรคไข้หวัดหมูสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ คือ วัคซีนแอนตี้ไวรัส "โอเซลทามิเวียร์" (ชื่อทางการค้าว่า ทามิฟลู) และ "ซานามิเวียร์" (ชื่อทางการค้าว่า รีเลนซา) เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้แตกตัว แต่ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า วัคซีนเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด เนื่องจากไข้หวัดหมูที่แพร่ระบาดอยู่ขณะนี้ เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น จึงต้องมีการศึกษาพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ เพื่อใช้ในการรักษาให้มีประสิทธิผลมากขึ้นต่อไป


การป้องกันโรคไข้หวัดหมู

โรคไข้หวัดหมู แม้จะเป็นสายพันธุ์หมู แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหมูโดยตรง เพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อจากคนสู่คน ดังนั้นจึงสามารถรับประทานหมูได้ หากไม่แน่ใจ ให้ปรุงเนื้อหมูให้สุกเสียก่อน คือ ผ่านความร้อนที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือต้มในน้ำเดือด ก็จะสามารถทำลายเชื้อให้หมดไปได้

ทั้งนี้ วิธีการป้องกันการติดต่อของโรคได้ดีที่สุด คือ การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด และล้างมือบ่อยๆ

ในส่วนของผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก รวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศใกล้เคียง ควรติดตามสถานการณ์และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด และหากมีอาการไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

สำหรับ ประเทศไทยนั้น ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ยังไม่พบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูในประเทศ ดังนั้นก็ไม่ต้องตื่นตระหนกไปหรอกค่ะ แต่ถ้าหากยังไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์จากโรคไข้หวัดหมู แนะนำว่าให้รับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกแล้วดีกว่า และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ อีกทั้งติดตามข่าวสารอยู่เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตค่ะ

ที่มา: ไข้หวัดหมูหรือไข้หวัดเม็กซิโก-ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่ควรรู้จัก

หลายชาติสั่งระงับเที่ยวบินจากเม็กซิโก

หลายประเทศเริ่มสั่งระงับเที่ยวบินเข้า-ออกจาก ประเทศเม็กซิโกที่เป็นต้นตอการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว เม็กซิโกเพิ่มการคุมเข้ม ห้ามร้านอาหารและคาเฟ่ เสิร์ฟอาหารยกเว้นกรณีซื้อกลับบ้าน



(29เม.ย.) คิวบาเป็นชาติแรกที่ประกาศระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากเม็กซิโก เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น โดยมีผลนาน 48 ชั่วโมง ยกเว้นในกรณีที่ได้รับการยกเว้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก โดยเที่ยวบินสุดท้ายเดินทางจากเม็กซิโกถึงกรุงฮาวานา
เมื่อเวลา 4 ทุ่มของเมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น และได้เดินทางกลับไปพร้อมกับผู้โดยสารก่อนที่คำสั่งระงับเที่ยวบินจะมีผล บังคับใช้

กระทรวงสาธารณสุขคิวบา ออกแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ระบุว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่พบผู้ป่วยบนเกาะคิวบา แต่รัฐบาลอาจจำเป็นต้องขยายระยะเวลาระงับเที่ยวบินเข้า-ออกเม็กซิโกต่อไปอีก ขณะที่ทางการพร้อมที่จะดำเนินมาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ในแถลงการณ์ยังสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน เฝ้าระวังขั้นสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงฮาวานา พร้อมให้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ทั่วประเทศ

ขณะที่รัฐบาลอาร์เจนตินา ก็ได้มีคำสั่งห้ามเที่ยวบินทุกเที่ยวจากเม็กซิโกเดินทางเข้าประเทศไปจนวัน จันทร์หน้าเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนพร้อมกับมีคำสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนที่ เดินทางมาจากแคนาดา สหรัฐ หรือเม็กซิโก ในระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน ติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายด้วย คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังประธานาธิบดีคริสตินา เคิร์ชเนอร์ได้เรียกประชุมเพื่อหารือถึงวิกฤติการระบาดของไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ใหม่ หลังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 3 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่มีการยืนยัน

ด้านสายการบิน แอร์ ทรานแซต ของแคนาดา ก็ระงับเที่ยวบินเดินทางไปยังเม็กซิโกไปจนถึงวันที่1 มิถุนายน

ด้าน เว็บไซท์ BBC รายงานว่า กรุงเม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงของเม็กซิโก ได้สั่งห้ามร้านอาหารและร้านกาแฟ เสิร์ฟอาหารทุกชนิดในร้าน ยกเว้นกรณีซื้อกลับบ้าน เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ให้โรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ปิดการเรียนการสอน และจำกัดการชุมนุมในที่สาธารณะ หลังจากมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโแล้วเกือบ 160 คน

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในโลกจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตนอกเม็กซิโก สหประชาชาติได้เรียกร้องให้ทุกประเทศ ตรวจสอบแผนการรับมือ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก เจ้าหน้าที่ทางการในเม็กซิโก ได้ประกาศมาตรการล่าสุดใการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส หอกาค้าได้ประเมินว่า มาตรการจำกัดต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เป็นมูลค่าอย่างน้อย777 ล้านเปโซ นายโจเซ่ แองเกล คอร์โดว่า รัฐมนตรีสาธารณสุข ระบุว่า กำลังสงสัยว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก 2,500 คน และอีก 1,300 คน อยู่ที่โรงพยาบาล

สหรัฐ ที่เผชิญการะบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ได้ยืนยันตัวเลขผู้ป่วยที่ 64 คน ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ได้ร้องขอให้สภาคองเกรสส์ สนับสนุนทางการเงินอีก 1,500 ล้านดอลล่าร์ เพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัส ด้านองค์การอาหารและเกษตรกรรมของสหประชาชาติ ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญ
ไป ตรวจสอบกรณีที่ว่า อุตสาหกรรมฟาร์มสุกรในเม็กซิโก เป็นแหล่งการระบาดของไวรัสไปสู่มนุษย์หลังมีรายงานว่า มีคนล้มป่วยในบริเวณใกล้ฟาร์มสุกรเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนประเทศที่ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัส ได้รวมถึง แคนาดา นิวซีแลนด์ สเปน อิสราเอล และสหราชอาณาจักร ส่วนประเทศที่กำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล ฝรั่งเศส ชิลี และเดนมาร์ค สนามบินในหลายประเทศในเอเชีย ละติน อเมริกา และยุโรป ต่างใช้มาตรการคัดกรองผู้โดยสาร ส่วนบริษัททัวร์ในฝรั่งเศสและเยอรมนี ได้ยกเลิกการเดินทางไปยังเม็กซิโก

อาร์เจนติน่า ได้ยกเที่ยวบินทุกเที่ยวจากเม็กซิโก จนถึงวันจันทร์ ภายใต้มาตรกรปลอดภัยไว้ก่อนเช่นเดียวกับคิวบา ที่ระงับเที่ยวบินจากเม็กซิโกเข้าประเทศ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง มาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ส่วนแอร์ ทรานแซ็ท ของแคนาดา ได้ระงับเที่ยวบินไปยังเม็กซิโก จนถึงวันที่ 1 มิถุนายน

ด้านนายโฆ เซ่ แองเจล คาร์โดวา รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ เพิ่มยอดของผู้ที่เชื่อว่า"อาจจะเสียชีวิต" ("probable" deaths ) จากไวรัส H1N1 ที่ทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก จาก 152 คนเป็น 159 คน แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ลดยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการ"ยืนยัน"แล้วว่ามี สาเหตุจากไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก จากเดิมที่เคยระบุไว้ว่ามี 20 คน หรือข่าวบางกระแสระบุว่า" 26 "คน เหลือเพียง 7 คนเท่านั้นส่วนยอดผู้ป่วยทั่วประเทศมีจำนวน 2,498 คน แต่ที่ยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมีจำนวน 1,311 คน

นายคาร์โดว่าอธิบายสาเหตุที่มีการปรับลดตัวเลขว่า เป็นเพราะผลที่ได้จากการตรวจสอบยืนยันที่แม่นยำมากขึ้น และสอดคล้องกับทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่จะนับเฉพาะกรณีที่มีการยืนยันว่าผลการตรวจสอบ ได้ผลเป็น"บวก" เท่านั้น และว่าปัจจุบัน เจ้าหน้าที่เม็กซิโกกำลังทำงานร่วมกับห้องแลปพิเศษในสหรัฐฯและแคนาดา เพื่อทดสอบตัวอย่างไข้หวัดใหญ่ที่ต้องสงสัยต่างๆด้วย

ที่มา: komchadluek.net/detail/20090429/11060/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%81.html

นร.ไทยในเม็กซิโกจ่อกลับบ้านหนีหวัดหมู

นร.ไทยในเม็กซิโกจ่อกลับบ้านหนีหวัดหมู

สนามบินสุวรรณภูมิ ระบุ พร้อมร่วมมือการป้องกันหวัดเม็กซิโก เตรียมเฝ้าระวังผู้โดยสาร 8 เมืองหลัก ด้านนักเรียนไทยในเม็กซิโก เตรียมอพยพกลับไทย ด้านการบินไทย แนะนำผู้ที่เป็นหวัด หากต้องการเดินทาง ควรมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย (29เม.ย.) นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสวุรรณภูมิ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ เรื่องมาตราการป้องกันไข้หวัดใหญ่เชื้อสายเม็กซิโก ว่า หน้าที่หลักของการท่าอากาศยานในการดูแลเรื่องดังกล่าว คือ การอำนวยความสะดวกให้กระทรวงสาธารณสุขในการติดตั้งเครื่องเทอรโมสแกนเนอร์ รวมทั้งจัดเส้นทางการเดินผู้โดยสารภายขาเข้าประเทศให้เดินผ่านมาในเส้นทาง ที่มีการติดตั้งเครื่องเทอรโมสแกนเนอร์ที่ทางกระทรวงสาธารณาสุขนำมาติดตั้ง เอาไว้ ซึ่งการจัดเส้นทางเดินดังกล่าวอาจมีปัญหาในการคับคั่งของจำนวนผู้โดยสารใน บางช่วงเวลา ซึ่งตรงนี้ทางการท่าอากาศยานได้จัดหน้าที่เข้าดูแลเพื่อำนวยความสะดวกกับผู้ โดยสารที่มาใช้บริการ เมื่อถามว่า ผู้โดยสารเดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนต้องเดินผ่านเครื่องเทอรโมสแกนเนอร์ ใช่หรือไม่ นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ผู้โดยสารมาจากต่างประ เทศจะต้องผ่านตรวจดังกล่าว ส่วนเที่ยวบินจากประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้น สำหรับประเทศไทยเองไม่มีเที่ยวบินตรงจากประเทศเม็กซิโก ดังนั้นผู้จะเดินทางมาจากประเทศเม็กซิโกมายังประเทศไทยจะต้องเดินทางไปต่อ เครื่องตามเมืองต่างๆ 8 เมือง เช่น ดูไบ ปารีส ลอนดอน เป็นต้น ดังนั้นมาตราการเฝ้าระวังเราจะเน้นไปยังสายการบินที่บินมาจากเมืองต่างๆดัง กล่าว แต่เมื่อองค์การอนามัยโลกได้ประกาศมาตรการเฝ้าระวังโรงดังกล่าวได้ยกระดับ ขึ้นเป็นระดับ 4 ซึ่งทำให้การติดตามเฝ้าระวังของไทยจึงจำเป็นี่จะต้องเฝ้าระวังเที่ยวบิน ต่างๆ ทุกเที่ยวบิน รวมทั้งจะต้องตรวจเฝ้าระวังตรวจผู้โดยสารที่มาจากประเทศต่างๆ ทุกคน เมื่อถามว่า หากเปรียบการเฝ้าระวังระหว่างโรคซาร์ท และโรคหวัดนกกับโรคไข้หวัดเม็กซิโกในครั้งนี้มีความแตกต่างกันมาก นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การเฝ้าระวังครั้งนี้ทางสนามบินใช้มาตรฐานเดียวกัน แต่ในภาพรวมทางกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วง ที่ไม่ต้องการให้มีใครนำเชื้อหวัดดังกล่าวนี้เข้าสู่ไทย อย่างไรก็ตามในการอำนวยความสะดวกให้หน่วยงานต่างๆ ที่จะมาเข้าดูแลในควบคุมนั้น ในฐานะที่ตนเป็นผู้อำนวยการสนามบินก็พร้อมให้ความร่วมมือ ในช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น การจัดสถานที่ และบุคลากรเข้าเสริมอย่างเต็มที่ ด้านนายฐปนัท เฉลิมวิสุตมิกุล นักเรียนแลกเปลี่ยนสโมสรโรตารี่ ที่กำลังศึกษาในเมืองอินตน่าโร ประเทศเม็กซิโก กล่าวว่า เมืองที่ตนศึกษาอยู่มีระยะห่างจากกรุงเม็กซิโกซีตี้ คือ หากเดินทางทางรถยนต์จะต้องใช้เวลาในการเดินทางเกือบสองวัน อย่างไรก็ตามในเมืองที่ตนอยู่ในเวลานี้มีความตื่นตัวการระวังโรคดังกล่าว อย่างมาก แต่จากการสังเกตุการดำเนินการของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม ซึ่งสถานการณ์โดยทั่วไปยังไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นว่ามีสถานหารณ์ที่ดีขึ้น สำหรับทางโครงการที่จัดส่งเด็กนักเรียนเดินทางมาเรียนครั้งนี้ เริ่มแสดงความเป็นห่วงกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศต่างๆ เริ่มมีความเคลื่อนไหวในการเดินทางออกจากประเทศเม็กซิโกแล้ว เมื่อถามว่า ในส่วนตัวคิดว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่ นายฐปนัท กล่าวว่า คิดว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยประมาณสัปดาห์หน้า จากการพูดคุยในกลุ่มนักเรียนไทยทั้งหมดที่เดินทางมาศึกษาในเม็กซิโก ดยกลุ่มตนมีประมาณ 11 คน มาจากภาคเหนือ คิดว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 5-6 คน แต่สิ่งที่ตนมีความเป็นห่วงและเกิดความกังวลอย่างมาก คือ เรื่องตั๋วเครื่องบิน และการต่อเครื่องเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินเดินทางมายังประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ประเทศสหรัฐฯ และประเทศญี่ปุ่น จะมีปัญหาหรือไม่

นายสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤต บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ว่า การบินไทย รวมทั้งลูกเรือ มีมาตรการดูแลเข้มงวด ลูกเรือได้รับการบอกกล่าวถึงความรุนแรงของโรคและวิธีป้องกัน ซึ่งปกติมีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ทุกปี เชื่อว่าสร้างภูมิได้ระดับหนึ่งรวมทั้งการตรวจร่างกายเมื่อเดินทางกลับจาก ประเทศกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ การบินไทย ยังได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ มาแล้ว ขณะที่ยังไม่มีการเปลี่ยนเส้นทางการบิน และยังไม่มีผู้โดยสารยกเลิกการเดินทาง

ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤต การบินไทย กล่าวแนะนำว่า ผู้ที่มีอาการหวัดและต้องการเดินทาง ควรมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย หากไม่ได้นำมา ก็อาจต้องส่งตัวไปตรวจกับแพทย์ที่ประจำอยู่ หากไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้ ก็อาจจำเป็นต้องปฏิเสธการเดินทาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าฯคนเหล็กประกาศฉุกเฉินแก้หวัดหมู เกาหลีใต้พบผู้ต้องสงสัยหวัดเม็กซิโกอีก9 มองผ่านเลนส์คม - อินเทอร์เน็ตทีวีมือถือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สบช่องดันส่งออกกุ้ง-ไก่แทนหมู

ที่มา: news.sanook.com/นรไทยในเม็กซิโกจ่อกลับบ้านหนีหวัดหมู-700801.html

WHO เตือนหวัดเม็กซิโกพบระบาดต่อเนื่องทั้งยุโรป-อเมริกา

WHO เตือนหวัดเม็กซิโกพบระบาดต่อเนื่องทั้งยุโรป-อเมริกา

30 เม.ย.-องค์การอนามัยโลกเตือนเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกพบการแพร่ระบาดแล้วทั้งในยุโรปและอเมริกา

ดร. เคอิจิ ฟูกูดะ หัวหน้าด้านโรคหวัดขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) รายงานว่า จากหลักฐานที่ผ่านมา ชี้ว่าเชื้อไวรัสหวัดเม็กซิโกยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องจากคนไปสู่คน จนเข้าใกล้ระดับที่สามารถแพร่ระบาดไปทั่วโลก และว่าองค์การอนามัยโลกกำลังพิจารณาเพิ่มระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 5 ซึ่งหมายถึงการแพร่เชื้อจากคนไปสู่คนอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดเม็กซิโกนอกเม็กซิโกรายแรก เป็นเด็กชายวัย 23 เดือนชาวเม็กซิกัน เสียชีวิตในรัฐเทกซัส ขณะที่ในสหรัฐยืนยันผู้ติดเชื้อเกือบ 100 ราย จากการแพร่ระบาดในพื้นที่ 10 รัฐ เยอรมนีและออสเตรียเป็นสองประเทศล่าสุดในยุโรปที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 4 ราย และ 1 รายตามลำดับ ทางการอียิปต์สั่งการให้ฆ่าทำลายหมูในประเทศทั้งหมด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่เม็กซิโกซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 159 คน เตรียมจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสห ประชาชาติ.-สำนักข่าวไทย

ที่มา: news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTkxMzE4Jm50eXBlPXRleHQ=